ใครที่กำลังสงสัยเรื่องสวิงเทรด แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้กลยุทธ์แบบไหนดี ให้ถามตัวเองดังนี้
ชอบแบบไหน
- ผลตอบแทนรวดเร็วที่มีความเสี่ยงสูง?
- ชอบเกมระยะยาวที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า?
- กำลังหาจุดสมดุลระหว่างสองอย่างนี้?
หากเอนเอียงไปทางคำตอบสุดท้าย มีความเป็นไปได้ที่คุณจะชอบสวิงเทรด มาดูวิธีการสวิงเทรดด้วยการพิจารณาจุดแข็ง จุดอ่อน วิธีการวิเคราะห์ และข้อมูลสำคัญอื่นๆ สำหรับกลยุทธ์นี้
สวิงเทรดคืออะไร
สวิงเทรดเป็นการทำเงินระยะสั้นถึงระยะกลางจากความเคลื่อนไหวของราคาภายในแนวโน้ม นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์สวิงจะเทรดอยู่ระหว่างช่วงไม่กี่วันไปจนถึงไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมที่ใหญ่กว่า แต่ก็ได้กำไรที่ค่อนข้างเร็วโดยใช้เวลาน้อยกว่า โดยจะซื้อสินทรัพย์ที่ราคาต่ำและขายที่ราคาสูง เพื่อใช้ประโยชน์ทั้งหมดจากความผันผวนของราคา นอกจากนี้ยังใช้การขายชอร์ตในตลาดที่กำลังถดถอย เมื่อคาดว่าราคาของสินทรัพย์จะลดลง
สวิงเทรด การเดย์เทรด หรือการลงทุนระยะยาว
มาเปรียบเทียบเพื่อทำความเข้าใจสวิงเทรดกับกลยุทธ์หลักอื่นๆ อย่างการเดย์เทรด และการลงทุนระยะยาว
นักเทรดแบบเดย์เทรดเป็นเหมือนนักวิ่งที่ต้องทำการเทรดเร็วๆ จำนวนมากในวันเดียว เพื่อเก็บเกี่ยวกำไรก่อนที่ตลาดจะปิด นักเทรดแบบเดย์เทรดมักใช้สกัลปิ้งเพื่อเพิ่มความเร็วให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ยังใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคมากมาย และระบบกราฟที่ซับซ้อน
ในทางกลับกัน นักลงทุนเป็นเหมือนนักวิ่งมาราธอน ที่มักมองภาพรวม ใช้การวิเคราะห์พื้นฐานหลายๆ ด้าน และเปิดเทรดไว้นานเป็นเดือน ความเสี่ยงน้อย แต่กำไรก็มาช้า
นักเทรดแบบสวิงเทรดก็เหมือนนักเล่นเซิร์ฟที่โต้คลื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการเข้าออกและมีเวลาพักผ่อน
นักเทรดแบบสวิงเทรดใช้ตัวชี้วัดและเครื่องมือใดบ้าง?
กลยุทธ์สวิงเทรดจะใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค รูปแบบกราฟ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ข้อได้เปรียบอยู่ที่กรอบเวลาสวิงเทรด (โดยทั่วไปคือ 1 ชั่วโมง 4 ชั่วโมง 1 วัน และ 2 วัน) ซึ่งช่วยให้ตัวชี้วัดและรูปแบบเหล่านี้เผยให้เห็นจังหวะที่ไม่เร่งรีบ ต่างจากการเทรดแบบสกัลปิ้งที่สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเร็วเกินไป และมักจะส่งผลให้เกิดสัญญาณหลอก
ตัวชี้วัดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับสวิงเทรด ได้แก่
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สำหรับช่วยหาทิศทางของแนวโน้ม
- ออสซิลเลเตอร์อย่าง Relative Strength Index (RSI) หรือ Stochastic Oscillator ที่จะส่งสัญญาณว่ามีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น
หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางสวิงเทรดด้วยตัวชี้วัดทางเทคนิค ให้ดูบทความเรื่องตัวชี้วัดใดเหมาะกับสวิงเทรดที่สุด
รูปแบบกราฟ เช่น ธง สามเหลี่ยม รูปแบบหัวและไหล่ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือทั่วไปสำหรับสวิงเทรด ด้านล่างเป็นประโยชน์ที่นำมาใช้ในสวิงเทรด
- หาแนวโน้ม – ตัวอย่างเช่น รูปแบบธง ธงปลายแหลม สามเหลี่ยมมุมเงยหรือสามเหลี่ยมมุมก้ม ซึ่งช่วยบอกว่าแนวโน้มปัจจุบันจะดำเนินต่อไปเมื่อรูปแบบเสร็จสมบูรณ์
- การกลับตัวของจุด – รูปแบบต่างๆ เช่น หัวและไหล่ สองยอด สามยอดขาขึ้น หัวและไหล่กลับด้าน จะส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา
- การเทรดตามเวลา – ตัวอย่างเช่น นักเทรดแบบสวิงอาจเข้าสู่สถานะซื้อหลังจากที่ราคาทะลุเหนือระดับแนวต้านของรูปแบบกราฟขาขึ้น (เช่น “รูปแบบ Cup and Handle หรือสามเหลี่ยมมุมก้ม) และอาจพิจารณาขายเมื่อราคาทะลุแนวรับในรูปแบบขาลง
- ช่วยบริหารความเสี่ยง – การหาระดับหยุดขาดทุนที่ขอบเขตของรูปแบบหลัก (เช่น ต่ำกว่าเส้นคอของรูปแบบหัวและไหล่) ทำให้นักเทรดสามารถจัดการการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับสถานะ
- ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, Relative Strength Index (RSI), MACD เป็นต้น เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและความถูกต้องของรูปแบบ ตัวอย่างเช่น การทะลุออกจากรูปแบบที่มีปริมาณสูงและ RSI ที่เพิ่มขึ้นสามารถยืนยันการเคลื่อนไหวขาขึ้นที่แข็งแกร่งได้
ข้อดีและข้อเสียของสวิงเทรด
ก่อนที่จะเริ่มใช้กลยุทธ์สวิงเทรด ให้พิจารณาปัจจัยทั้งหมดและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหมาะกับตนเอง
ข้อดี
- สามารถทำกำไรมหาศาลโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวัน นักเทรดแบบสวิงเทรดบางคนใช้เวลาเทรดเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหางานเสริมนอกเหนือจากงานประจำ นี่คือตัวเลือกที่ดี
- สวิงเทรดช่วยให้นักเทรดได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาทั้งขาขึ้นและขาลง โดยนำเสนอโอกาสในตลาดกระทิงและตลาดหมี
ข้อเสีย
- ค่าธรรมเนียมสวอป เมื่อถือสถานะไว้จนถึงวันเทรดถัดไปอาจส่งผลให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากฝั่งโบรกเกอร์ อย่าลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพื่อวางแผนกลยุทธ์
- ความเสี่ยงของตลาดช่วงสุดสัปดาห์ ในช่วงสุดสัปดาห์อะไรก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้
เครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับสวิงเทรด
สวิงเทรดเหมาะกับตราสารหลายตัว สามารถใช้เทรดหุ้น สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโตได้ตามต้องการ ตราบใดที่ยังมีการเคลื่อนไหวของราคาก็สามารถสวิงเทรดได้ ฟอเร็กซ์อาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าเล็กน้อย เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วสกุลเงินจะมีความผันผวนน้อยกว่า เพียงแค่ยึดติดกับสิ่งที่รู้และสิ่งที่กำลังมาแรง
ตัวอย่างสวิงเทรด
พิจารณาตัวอย่างสวิงเทรดเพื่ออธิบายแนวคิดนี้ กราฟ Bitcoin ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายน 2024 เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นจากแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งตอนแรกเพิ่มสูงขึ้นจากการคาดการณ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์ Halving ของ BTC ไปสู่การกลับตัวของแนวโน้มขาลง
การซูมออกเพื่อดูกรอบเวลาที่นานขึ้นจะเผยให้เห็นรูปแบบหัวและไหล่ที่แตกต่างกันสองรูปแบบ ส่งสัญญาณถึงการสูญเสียโมเมนตัมและบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นขาลง
- รูปแบบเหล่านี้มียอดเล็กๆ สองยอดที่แต่ละด้านของยอดขนาดใหญ่กว่า ทำให้ดูเหมือนหัวอยู่ระหว่างไหล่ทั้งสองข้าง
- วาดเส้นเชื่อมจุดต่ำสุดของไหล่ทั้งสองข้างเรียกว่าเส้นคอ
- เมื่อราคาลดลงต่ำกว่าเส้นคอนี้เป็นการยืนยันรูปแบบและแนะนำว่าเป็นจังหวะเหมาะที่จะขาย
กลยุทธ์สวิงเทรดทำให้หาการกลับตัวของแนวโน้มชั่วคราวภายในแนวโน้มขาขึ้นที่ยาวนานขึ้นของ Bitcoin ช่วยให้ทำการเทรดที่ประสบความสำเร็จอย่างน้อยสองครั้ง สัญญาณดังกล่าวอาจมองไม่เห็นในกรอบเวลาที่สั้นกว่า และอาจพลาดการกลับตัวสั้นๆ เหล่านี้ในกรอบเวลาที่นานกว่า
สรุป
สวิงเทรดเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับผู้ที่มีชั่วโมงการเทรดจำกัดและยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลาง นอกจากนี้ยังใช้ได้กับการเปลี่ยนแปลงทั้งขาขึ้นและขาลงของตลาด ทำให้เป็นกลยุทธ์ที่หลากหลายสำหรับการสำรวจสภาวะตลาดต่างๆ เหมือนกับการจับกระแสในโลกการเทรดที่มีความตื่นเต้น มีชีวิตชีวา ทักษะของนักเทรดและการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะนำไปสู่การทำกำไรที่ดีในกรอบเวลาระยะกลาง
