ตัวชี้วัด Bollinger Bands เป็นหนึ่งในเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังที่สุด ซึ่งง่ายต่อการใช้งานและอ่านค่า มีฟังก์ชันหลายอย่างให้นักเทรดสามารถปรับได้ตามเป้าหมาย ในบทความนี้จะมาดูรายละเอียดของกลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายตัวพร้อมรูปแบบกราฟเพื่อรับสัญญาณซื้อขายในทุกตลาด

หากคุ้นเคยกับ Bollinger Bands อยู่แล้วก็สามารถข้ามไปยังส่วนถัดไปและดูภาพรวมของกลยุทธ์ แต่ถ้ายังไม่เคยใช้เครื่องมือทางเทคนิคนี้ นักเทรดอาจได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวชี้วัดและการตั้งค่าก่อนที่จะดำเนินการต่อไปยังกลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal

การเทรดด้วย Bollinger Bands

Bollinger Bands เป็นตัวชี้วัดแนวโน้มที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงเวลาที่เลือกและหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าเทรด การติดตามเส้นตัวชี้วัด Bollinger Bands นักเทรดสามารถเข้าใจได้ว่าราคาปัจจุบันสูงหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตัวเลขล่าสุด ซึ่งชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มที่กำลังจะมาถึงและโอกาสเปิดสถานะซื้อขาย

ตัวชี้วัด Bolllinger Bands ประกอบด้วยเส้น 3 เส้น

1. Upper Band – ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 ช่วง + 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

2. Middle Band – ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 ช่วง

3. Lower Band – ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 ช่วง – 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

โดยทั่วไปเมื่อแบนด์ด้านล่างเข้าใกล้กราฟราคาหรือตัดผ่าน นักเทรดอาจคาดว่าราคาจะสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากแบนด์ด้านบนแตะกราฟราคา อาจเป็นสัญญาณการลดลงของราคา

หนึ่งในวิธีหลักของการเทรดด้วย Bollinger Bands คือมองหาการบีบแคบลงเรื่อยๆ (Squeeze) วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการหาว่าแบนด์มาใกล้กันแค่ไหน

เมื่อแบนด์บนและแบนด์ล่างขยับเข้าใกล้แบนด์กลางจะเรียกว่า Squeeze สิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณของความผันผวนที่ลดลงในตลาด ณ จุดนี้ นักเทรดอาจคาดว่าแนวโน้มปัจจุบันจะดำเนินต่อไป

ในทางกลับกัน เมื่อแบนด์ด้านบนและแบนด์ด้านล่างเคลื่อนออกจากแบนด์ตรงกลางจะชี้ให้เห็นถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในทิศทางของแนวโน้ม

โปรดทราบว่าตัวชี้วัด Bollinger Bands ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณและสร้างกลยุทธ์ Bollinger Bands ที่มีประสิทธิภาพที่สุด ตัวอย่างเช่น การใช้กลยุทธ์ร่วมกับ Bollinger Bands, Keltner Channels และ Momentum Oscillator อาจช่วยสังเกตสัญญาณตลาดหมีและตลาดกระทิงในการเทรดฟอเร็กซ์ – Bollinger Squeeze เพื่อหาความเคลื่อนไหวของตลาดขนาดใหญ่

การเทรดด้วยกลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วยกลยุทธ์นี้ นักเทรดต้องผสมผสานเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายตัวเข้าด้วยกัน

1. อันดับแรกให้ปรับค่าตัวชี้วัด Bollinger Band ตามการตั้งค่าต่อไปนี้

การตั้งค่า Bollinger Bands ในห้องเทรด IQ Option

2. ใช้การตั้งค่ามาตรฐาน 14 ช่วงเวลาสำหรับตัวชี้วัด ATR (Average True Range)เครื่องมือทางเทคนิคนี้จะช่วยวัดความผันผวนเพื่อหาจังหวะเข้าหรือออกจากดีล

ตัวชี้วัด ATR บนกราฟราคา IQ Option

3. เปิดใช้งานฟีเจอร์ปริมาณในส่วน “วิดเจ็ต” ของห้องเทรด IQ Option 

โดยปกติแล้วปริมาณการเทรดที่ต่ำหมายถึงกิจกรรมทางการตลาดที่ลดลงสำหรับสินทรัพย์นี้ การเพิ่มขึ้นของปริมาณที่มีแนวโน้มมักจะส่งสัญญาณถึงความสนใจในสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น

4. หารูปแบบกราฟการกลับตัวของแนวโน้มเพื่อยืนยันสัญญาณของตัวชี้วัดและเข้าสู่ตลาดในราคาที่ดีที่สุด

มีรูปแบบกราฟหลายประเภทที่นักเทรดใช้เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและทิศทาง ซึ่งรวมถึงรูปแบบความต่อเนื่องของเทรนด์ เช่น สามเหลี่ยมและธง รูปแบบการกลับตัวของเทรนด์ เช่น หัวและไหล่ ดับเบิ้ลท็อป และอื่นๆ หากยังไม่เคยใช้รูปแบบกราฟสำหรับการเทรด นักเทรดอาจต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือในบทความนี้ รูปแบบการเทรดยอดนิยมสำหรับการเทรดด้วยความแม่นยำ

กลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal – ตัวอย่างของสัญญาณซื้อ

เมื่อเครื่องมือทั้งหมดที่กล่าวถึงข้างต้นตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้ อาจได้รับสัญญาณซื้อ

  • กราฟราคาอยู่ต่ำกว่า Bollinger Band ด้านล่าง
  • ปริมาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมที่ลดลงในตลาด
  • ตัวชี้วัด ATR บ่งชี้ความผันผวนต่ำ
  • สังเกตเห็นรูปแบบกราฟขาขึ้น เช่น Three White Soldiers หรือ Bullish Harami
ซื้อ

ดูตัวอย่างกราฟราคาฟอเร็กซ์นี้ พื้นที่ตรงกับเกณฑ์ทั้งหมดสำหรับการยืนยันสัญญาณขาขึ้น (ซื้อ)

  • กราฟราคาตัดผ่าน Bollinger Band ล่างและเคลื่อนไหวต่ำกว่านั้น
  • ปริมาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมที่ลดลงในตลาด
  • ตัวชี้วัด ATR แสดงความผันผวนต่ำ
  • สังเกตเห็นรูปแบบกราฟ Bullish Harami
หาสัญญาณซื้อด้วยกลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal

กลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal – ตัวอย่างของสัญญาณขาย

นี่คือเกณฑ์สำหรับหาสัญญาณขายด้วยกลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal

  • กราฟราคาอยู่เหนือ Bollinger Band เส้นบน
  • ปริมาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางการตลาดที่สูงขึ้น
  • ตัวชี้วัด ATR ชี้ให้เห็นถึงความผันผวนสูง
  • มีรูปแบบกราฟหมี เช่น Three Inside Down หรือ Bearish Harami
ขาย

ตัวอย่างเช่น กราฟราคาฟอเร็กซ์นี้ชี้ให้เห็นถึงการกลับตัวที่จะเกิดขึ้นเป็นแนวโน้มขาลงตามเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในกลยุทธ์นี้

  • กราฟราคาอยู่เหนือ Bollinger Band เส้นบน
  • ปริมาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางการตลาดที่สูงขึ้น
  • ตัวชี้วัด ATR บ่งชี้ถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้น
  • สังเกตเห็นรูปแบบกราฟหมีที่เรียกว่า Three Inside Down
หาสัญญาณขายด้วยกลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal

ปัจจัยเหล่านี้รวมกันอาจช่วยให้นักเทรดเปิดสถานะขายเพื่อรับประโยชน์สูงสุดจากแนวโน้มขาลง

เคยใช้กลยุทธ์ Bollinger Bands Reversal หรือยัง? มาแชร์ความคิดเห็นกัน!

ลองใช้กลยุทธ์นี้