เพิ่มเลเวลการเทรดของคุณด้วย Stop Loss และ Take Profit

มีตราสารจำนวนมากที่นักเทรดสามารถใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเทรดของพวกเขาได้ คำสั่ง Stop Loss และ Take Profit คือหนึ่งในวิธีที่เรียบง่ายและได้ผลมากที่สุด พวกมันนำเสนอโอกาสที่จะเพิ่มกำไรสูงสุดและจำกัดความสูญเสียที่เป็นไปได้ ทำให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายทางการเงินของคุณมากขึ้นไปอีก อ่านต่อเพื่อเรียนรู้วิธีใช้งานคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit เพื่อพัฒนาผลลัพธ์การเทรดของคุณ

Stop Loss ในการเทรดคืออะไร

Stop Loss คือคำสั่งที่ปิดสถานะโดยอัตโนมัติหากราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด มันช่วยให้นักเทรดลดความสูญเสียหากดีลไม่เป็นไปตามที่ต้องการ สำหรับนักเทรดจำนวนมาก มันเป็นไปได้ที่จะติดตามดีลของพวกเขาตลอดเวลา โดยการกำหนดคำสั่ง Stop Loss พวกเขาสามารถปกป้องเงินทุนและตรวจสอบให้แน่ใจว่าดีลที่กำลังขาดทุนนั้นถูกปิดโดยอัตโนมัติเมื่อตอนที่พวกเขาไม่อยู่

วิธีตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss

นักเทรดสามารถใช้งานเครื่องมือนี้ได้โดยตรงในห้องเทรด วิธีการตั้งค่า คุณสามารถระบุจำนวนเงินที่คุณพร้อมที่จะเสี่ยงกับเทรดนี้ได้ วิธีนี้ Stop Loss จะทำงานเมื่อการสูญเสียในสถานะถึงจำนวนที่กำหนด หรือคุณสามารถระบุความแตกต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิดใน pip ได้ (หน่วยความเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กที่สุด) ค่า Pip อาจแตกต่าง ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบก่อนนำไปใช้งานในคำสั่งของคุณ

มาดูกันที่ตัวอย่างของเทรดบนแพลตฟอร์ม IQ Option คำสั่ง Stop Loss ถูกกำหนดที่ 10 pip จำนวนนี้อยู่ที่ประมาณ $76 สำหรับสินทรัพย์นี้ (เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนเริ่มต้นของคุณถูกคำนวณโดยแพลตฟอร์ม) หรือในทางกลับกัน – นักเทรดสามารถระบุจำนวนเงินที่ต้องการได้ จากนั้นค่า pip จะถูกคำนวณโดยอัตโนมัติ ทั้งสองทาง เทรดจะปิดโดยอัตโนมัติหากความสูญเสียของคุณในสถานะนี้ถึงระดับนี้

Take Profit ในการเทรดคืออะไร

คล้ายกับ Stop Loss คำสั่ง Take Profit ที่จะปิดเทรดโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่ในกรณีนี้ เป้าหมายไม่ใช่เพื่อลดการสูญเสีย แต่เพื่อได้รับกำไรสูงสุด หมายความว่าดีลจะปิดเมื่อราคาเพิ่มขึ้นและถึงระดับหนึ่ง ด้วยการใช้เครื่องมือนี้ นักเทรดสามารถได้รับประโยชน์จากความผันผวนของตลาด และจับช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อออกเทรดพร้อมกำไร

วิธีตั้งค่าคำสั่ง Take Profit

เหมือนกับตอนใช้ Stop Loss ในการเทรด คุณสามารถกำหนด Take Profit สำหรับดีลของคุณได้โดยการระบุค่า pip หรือจำนวนเงิน เช่น คุณต้องการให้สถานะปิดที่กำไร $100 (ซึ่งคือ 13 pip สำหรับสินทรัพย์นี้) นี่คือวิธีกำหนดค่าในห้องเทรด

วิธีใช้ Stop Loss และ Take Profit เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ตลาดเปลี่ยนแปลงได้และสร้างความผันผวนทางราคาได้อย่างรุนแรง การใช้ Stop Loss และ Take Profit ในการเทรดอาจช่วยคุณให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากความเปลี่ยนแปลงรุนแรงเหล่านี้ นี่คือเรื่องที่คุณควรระลึกเสมอเมื่อพิจารณาที่จะใช้เครื่องมือเหล่านี้ในกลยุทธ์การเทรดของคุณ

• เลือกระดับ Stop Loss อย่างระมัดระวัง อ้างอิงตามจำนวนของเงินทุนที่คุณพร้อมจะเสี่ยงในตอนนั้น โดยเฉพาะเมื่อการเทรดมาร์จิ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเทรดที่มีจำนวนเงินยืมจากโบรกเกอร์ที่สูงกว่า จำไว้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางส่วนแนะนำให้ลงทุนไม่มากกว่า 2% ของเงินทุนของคุณในดีลเดียว
• ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาระดับ Stop Loss และ Take Profit ที่ดีที่สุดสำหรับเทรดของคุณ เช่น แนวรับและแนวต้านช่วยให้เห็นเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าหรือออกจากตลาด หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือเหล่านี้ ไปดูวิดีโอสอนจาก IQ Option

คุณสามารถใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ ได้ เช่น Bollinger Bands และ RSI (Relative Strength Index)

• พิจารณาความผันผวนสำหรับสินทรัพย์เฉพาะที่คุณกำลังเทรด อาจแตกต่างกันมากซึ่งอาจส่งผลต่อผลการเทรด เช่น หากราคาหุ้นมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง คุณอาจต้องกำหนดคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit ให้มากขึ้น สิ่งนี้ต้องการความต้านทานต่อความเสี่ยงที่สูงขึ้นและอาจนำไปสู่การสูญเสียจำนวนมากได้ ดังนั้นให้วิเคราะห์ผลงานในอดีตของสินทรัพย์ก่อนลงมือดำเนินการ
• แม้ว่า Stop Loss และ Take Profit มักถูกใช้กันกับนักเทรดฟอเร็กซ์ นักเทรดยังสามารถใช้กับสินทรัพย์อื่นๆ ได้ด้วย เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ เงินดิจิทัล ETF มากไปกว่านั้น พวกมันยังสามารถถูกใช้สำหรับสถานะการเทรดระยะยาวและระยะสั้นได้อีกด้วย

โปรดทราบว่าการตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรอให้พวกมันทำงานเพื่อปิดเทรด คุณสามารถออดีลได้ตลอดเวลา คำสั่งจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ แต่บางครั้งมันอาจจะดีกว่าที่ให้กลยุทธ์การเทรดของคุณทำงานแทนการออกจากเทรดก่อนเวลา คุณควรระลึกเกี่ยวกับจิตวิทยาการเทรดเสมอและพยายามตัดสินใจอ้างอิงตามข้อเท็จจริงและตรรกะแทนอารมณ์

ประเด็นที่สำคัญ

Stop Loss และ Take Profit คือเครื่องมือที่เป็นประโยชน์เพื่อเพิ่มกำไรสูงสุดและจำกัดความสูญเสียในการเทรด โดยการตั้งค่าคำสั่งอัตโนมัติเหล่านี้ นักเทรดสามารถรับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของราคาและปกป้องเงินทุนของพวกเขาได้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคตราสาร (แนวรับและแนวต้าน, ตัวชี้วัด) อาจช่วยเลือกระดับ Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสมกับสินทรัพย์แต่ละชนิดได้