สวิงเทรด (Swing Trading) เป็นกลยุทธ์เทรดยอดนิยมที่ใช้ในตลาดการเงินต่างๆ ซึ่งรวมทั้งหุ้น ฟอเร็กซ์ และสินค้าโภคภัณฑ์ กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเปิดเทรดที่จุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่และถือสถานะไว้สองสามวันไปจนถึงสองสามเดือน เพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาที่คาดการณ์ไว้ สวิงเทรดช่วยทำเงินจากตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง ในบทความนี้จะอธิบายพื้นฐานของการเทรดแบบสวิงสำหรับมือใหม่ และตัวชี้วัดที่เหมาะกับสวิงเทรดเพื่อช่วยทำกำไรจากตลาด

ดังนั้นมาเจาะลึกเพื่อทำความเข้าใจว่า สวิงเทรด (Swing Trading) คืออะไร และหาคำตอบว่า “ตัวชี้วัดใดเหมาะกับสวิงเทรดที่สุด”

สวิงเทรด (Swing Trading) คืออะไร

สวิงเทรด (Swing Trading) เป็นกลยุทธ์เทรดที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเทรดและถือสถานะไว้เป็นเวลาหลายวันหรือหลายเดือน (ปกติไม่เกินสองเดือน) เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่คาดการณ์ โดยจะขึ้นอยู่กับการหาโมเมนตัมและจุดกลับตัวที่เป็นไปได้เมื่อสินทรัพย์เข้าสู่โซนซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปเพื่อทำกำไรจากสินทรัพย์

☝️
นักเทรดแบบสวิงเทรดจะซื้อสินทรัพย์ที่สวิงต่ำและขายที่สวิงสูงถัดไป โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์จาก “การสวิง” ของราคาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถรับประโยชน์จากการขายชอร์ตในตลาดขาลงเมื่อคาดว่าราคาของสินทรัพย์อาจลดลง

สวิงเทรดแตกต่างจากการเดย์เทรด (เทรดระหว่างวัน) ที่มีการถือสถานะไว้สองสามชั่วโมงและต้องปิดภายในสิ้นวัน ซึ่งเป็นที่สนใจของมือใหม่เพราะไม่ต้องเน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบเรียลไทม์ แต่นักเทรดแบบสวิงเทรดจะมีเวลามากขึ้นในการวิเคราะห์ตลาดและวางแผนการเทรด ไม่จำเป็นต้องติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนการเดย์เทรด

สวิงเทรดสามารถทำกำไรได้สูงหากรู้วิธีทำกำไรจากการสวิงของราคาที่คาดหวังและจัดการความเสี่ยง การใช้ตัวชี้วัดสวิงเทรดจะช่วยให้คาดการณ์ทิศทางได้เมื่อราคาอาจสวิงขึ้นหรือสวิงลง เพื่อหาจังหวะที่ดีที่สุดในการเข้าและออกจากเทรด

ตัวชี้วัดสวิงเทรดที่ดีที่สุด

ตัวชี้วัดสวิงเทรดช่วยให้นักเทรดได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของตลาด หาโอกาสเทรด และกำหนดจุดเข้าออกที่ดีที่สุด

นักเทรดจะใช้ตัวชี้วัดสวิงเทรดในกราฟรายวันหรือกรอบเวลาอื่นๆ เพื่อหาแนวโน้มตลาด การกลับตัวของแนวโน้ม รวมถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้น ตัวชี้วัดจะช่วยชี้ให้เห็นกรณีที่มีสินทรัพย์มีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป และนักเทรดจะมีข้อมูลประกอบตัดสินใจว่าจะซื้อและขายตอนไหน

มาดูตัวชี้วัดสวิงเทรดที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้การเทรดประสบความสำเร็จ

วิธีการตั้งค่าตัวชี้วัดที่ IQ Option

ตัวชี้วัดทั้งหมดที่กล่าวถึงจะรวมอยู่ในห้องเทรด IQ Option และด้านล่างคือวิธีเปิดใช้งาน

1. เข้าสู่บัญชีของคุณและไปที่ห้องเทรด

2. คลิกที่ “ตัวชี้วัด” ในเมนูด้านซ้ายล่าง

3. ค้นหาตัวชี้วัดที่ต้องการแล้วคลิกเพื่อเพิ่มลงในกราฟ

เมนูตัวชี้วัดที่ IQ Option

หากต้องการดาวน์โหลดแอป IQ Option คลิกที่นี่

1. Relative Strength Index (RSI)

Relative Strength Index (RSI) เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมยอดนิยมในการสวิงเทรด ช่วยให้นักเทรดทราบถึงสภาวะที่สินทรัพย์มีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป การกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น และโอกาสซื้อหรือโอกาสขาย

ตัวชี้วัด RSI จะแสดงเป็นออสซิลเลเตอร์ในรูปแบบกราฟเส้นที่เคลื่อนที่ระหว่าง 0 ถึง 100

หากตัวชี้วัด RSI สูงกว่า 70 จะถือว่าตลาด “ซื้อมากเกินไป” และอาจมีโอกาสกลับตัวสูง หมายความว่าสัญญาณขายเกิดขึ้น และนักเทรดอาจตัดสินใจขายหรือทำการชอร์ตสินทรัพย์

ในทางกลับกัน หากค่า RSI ต่ำกว่า 30 จะถือว่าตลาด “ขายมากเกินไป” ซึ่งบ่งบอกว่าอาจมีการกลับตัวเกิดขึ้น และเป็นโอกาสซื้อหรือเปิดสถานะ Long  

การหาข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักเทรดมีข้อมูลในการตัดสินใจและเพิ่มกำไร

เพิ่ม RSI ในห้องเทรด IQ Option

2. Moving Average (MA)

รายการตัวชี้วัดจะไม่สมบูรณ์หากไม่มีหนึ่งในตัวชี้วัดที่ได้รับความนิยมและเป็นสากลมากที่สุด Moving Average (MA) หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดแนวโน้มที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ช่วยให้นักเทรดแบบบสวิงเทรดหาทิศทางและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม MA ใช้คำนวณการเคลื่อนไหวของราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยให้นักเทรดแบบบสวิงเทรดกรองสัญญาณรบกวนระยะสั้นเพื่อหาแนวโน้มสินทรัพย์อ้างอิงและหาจุดเข้าออกที่เป็นไปได้

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายในห้องเทรด IQ Option

MA เป็นตัวชี้วัดตามที่อ้างอิงการเปลี่ยนแปลงของราคาในอดีต ดังนั้นจึงมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับใช้ยืนยันแทนการคาดการณ์แนวโน้ม

ตัวอย่างเช่น หากราคาสินทรัพย์อยู่เหนือ MA อย่างต่อเนื่อง อาจส่งสัญญาณถึงโอกาสซื้อ ในทางกลับกัน หากราคาสินทรัพย์ต่ำกว่า MA อย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณของโอกาสขาย

อีกสัญญาณที่ต้องระวังคือ จุดตัดเส้นค่าเฉลี่ย (Moving Average Crossover) เมื่อกราฟราคาตัดเส้น MA ขึ้นด้านบนอาจส่งสัญญาณแนวโน้มขาขึ้น ในทางกลับกัน หากตัดเส้นค่าเฉลี่ยลงด้านล่างอาจส่งสัญญาณถึงแนวโน้มขาลง จุดตัดบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม ซึ่งช่วยให้หาจุดเข้าออกจากเทรด นักเทรดสามารถใช้จุดตัดเหล่านี้เพื่อหาว่าแนวโน้มอาจเกิดขึ้นหรือสิ้นสุดตอนไหน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นจุดเข้าออกสำหรับการเทรดแบบสวิงได้อีกด้วย

MA แบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ติดตาม MA ระยะสั้นครอบคลุมค่าเฉลี่ยย้อนหลังช่วง 5-50 ขณะที่ MA ระยะกลางสูงครอบคลุมถึง 100 และ MA ระยะยาวครอบคลุมถึง 200 นักเทรดแบบสวิงเทรดมักใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน และ 200 วัน

3. Moving Average Convergence Divergence (MACD)

MACD เป็นออสซิลเลเตอร์โมเมนตัมที่ช่วยให้นักเทรดแบบสวิงเทรดหาการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมและแนวโน้มของตลาด ซึ่งขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 Moving Average (MA) ของราคาสินทรัพย์ ตัวชี้วัด MACD ประกอบด้วยเส้น MACD เส้นสัญญาณ และฮิสโตแกรม MACD และเส้นสัญญาณจะสร้างสัญญาณเทรด ส่วนฮิสโตแกรมแสดงถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มตลาดในปัจจุบัน

เพิ่มตัวชี้วัด MACD ในกราฟที่ IQ Option

MACD คำนวณโดยการลบช่วงเวลา 26 Exponential Moving Averages (EMA) ออกจาก EMA 12 วัน เส้นสัญญาณคือ EMA 9 วันของเส้น MACD 

เมื่อเส้น MACD ตัดเหนือเส้นสัญญาณเป็นการบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นและโอกาสซื้อ ในทางกลับกัน หากเส้น MACD ตัดใต้เส้นสัญญาณ เป็นการบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงและสัญญาณขาย อย่างไรก็ตาม กรณีที่ฮิสโตแกรมตัดเหนือระดับศูนย์จะชี้ให้เห็นถึงสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่งกว่ามาก เมื่อเทียบกับเพียงแค่เส้น MACD อย่างเดียวที่ตัดเหนือเส้นสัญญาณ แต่ถ้าฮิสโตแกรมตัดต่ำกว่าระดับศูนย์จะชี้ให้เห็นถึงสัญญาณขายที่แข็งแกร่งกว่ามาก

หากต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการทำงานของตัวชี้วัด MACD และวิธีอ่านสัญญาณ โปรดดูบทความ MACD – เครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค

นักเทรดแบบสวิงเทรดสามารถใช้ MACD เพื่อหาแนวโน้มและจุดกลับตัวของแนวโน้ม อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่ได้ผลกับ Ranging Market  (สภาวะที่ราคาวิ่งระหว่างกรอบราคาสูงสุดและต่ำสุด) และตลาดที่มีแนวโน้มจะเกิดช่องว่างราคากะทันหัน

4. Bollinger Bands (BB)

Bollinger Bands เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ช่วยให้นักเทรดหาแนวโน้มได้อย่างรวดเร็ว ระดับซื้อมากเกินไปและระดับขายมากเกินไป รวมถึงช่วงความผันผวนของตลาด ซึ่งประกอบด้วยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่กลางและเส้นส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสองเส้น (บวกและลบ)  

นักเทรดแบบสวิงเทรดสามารถใช้ Bollinger Band เพื่อหาจุดเข้าออกที่เป็นไปได้สำหรับการเทรด หากราคาสินทรัพย์ตัดใต้เส้นล่างของ Bollinger Band แสดงว่ามีการขายมากเกินไป ราคามีแนวโน้มที่จะกลับทิศทางและเพิ่มขึ้น และเกิดสัญญาณซื้อในทางกลับกัน หากราคาตัดเหนือเส้นบน (Upper Band) แสดงว่ามีการซื้อมากเกินไป ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวและเริ่มลดลง และเกิดสัญญาณขาย

ความกว้างของ Bollinger Band ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่าง Band จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับความผันผวนของตลาด เมื่อ Band กว้างแสดงว่าตลาดมีความผันผวนสูง ในทางกลับกัน ยิ่งเส้นอยู่ใกล้กัน ความผันผวนก็จะยิ่งน้อยลง

เปิดใช้งาน Bollinger Band ในห้องเทรด IQ Option

นักเทรดแบบสวิงสามารถใช้ Bollinger Band ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อหาโอกาสเข้าเทรด

5. Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่คล้ายกับ RSI ตัวชี้วัดนี้ใช้ได้กับสไตล์การเทรดต่างๆ และสามารถใช้ได้ทั้งกับการเทรดระยะสั้น เช่น ไบนารีออปชัน และกลยุทธ์ระยะยาว

Stochastic เหมือนกับตัวชี้วัดโมเมนตัมอื่นๆ ที่นำเสนอช่วงระหว่าง 0 ถึง 100 เมื่อทะลุผ่านเส้นขายมากเกินไป (20) เทรนด์มีแนวโน้มกลับตัว และราคาอาจเริ่มเพิ่มขึ้น ในกรณีนี้จะให้สัญญาณซื้อ เมื่อออสซิลเลเตอร์ตัดเส้นซื้อมากเกินไป (80) ราคามีแนวโน้มกลับตัวลง ในกรณีนี้จะให้สัญญาณขาย

การใช้ Stochastic Oscillator ในห้องเทรดที่ IQ Option

การใช้ Stochastic Oscillator สิ่งสำคัญคือต้องดูจุดตัดระหว่างเส้นสองเส้นของตัวชี้วัด (%K และ %D) เนื่องจากปฏิสัมพันธ์ของเส้นสองเส้นสามารถช่วยยืนยันทิศทางของแนวโน้มเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ ไดเวอร์เจนซ์ (Divergence) อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ตัวชี้วัดนี้ จึงควรยืนยันสัญญาณของ Stochastic ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ

สรุป

สวิงเทรดอาจเป็นสิ่งที่ท้าทายและมีความเสี่ยง แต่การใช้ตัวที่ชัดที่ถูกต้องจะช่วยให้การเทรดได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ตัวชี้วัดสวิงเทรดที่ดีที่สุดที่แนะนำในบทความนี้จะช่วยให้คาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดและหาจังหวะเข้าเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดแบบสวิงเทรดสามารถใช้ตัวชี้วัดเหล่านี้เพื่อหาสภาวะที่ตลาดมีการซื้อมากเกินและขายมากเกินไป การเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมและแนวโน้ม รวมถึงโอกาสซื้อและขาย

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือไม่มีตัวชี้วัดใดเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถรับประกันความสำเร็จได้ 100% นักเทรดควรตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่ามีการใช้กลยุทธ์จัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม และใช้ตัวชี้วัดหลายตัวเพื่อยืนยันสัญญาณ

เทรดตอนนี้