ตัวชี้วัดยอดนิยมสำหรับไบนารีออปชัน: Stochastic Oscillator

ออสซิลเลเตอร์อ้างอิงตามการกระทำซ้ำๆ ที่เคลื่อนที่ (หรือสั่น) เหนือและต่ำกว่าจุดดุลยภาพและถูกใช้โดยนักวิเคราะห์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางที่เป็นไปได้ในอนาคตของตลาด วันนี้เราจะมาดู Stochastic Oscillator 

ตัวชี้วัดนี้ถูกใช้ในกลยุทธ์การเทรดไบนารีออปชันมากมาย นั่นคือเหตุผลหลักที่คุณควรเรียนรู้ให้มากที่สุด

ทำไมถึงเลือก Stochastic

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคคุณสามารถใช้ตัวชี้วัดจำนวนมากเพื่ออ่านกราฟได้ Stochastic คือหนึ่งในนั้น

ในทางหนึ่ง Stochastic Oscillator จะคล้ายกับ Relative Strength Index (RSI) มันคือออสซิลเลเตอร์โมเมนตัมที่มีประวัติการใช้งานยาวนาน Stochastic Oscillator ถูกพัฒนาในปี 1950 โดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิค Dr. George Lane 

เหมือนกับ RSI ตัวชี้วัด Stochastic มอบสัญญาณของตลาด Overbought และ Oversold โดยจะดูที่ราคาปัจจุบันและเปรียบเทียบกับค่าก่อนหน้า แนวคิดหลักคือ Stochastic ไม่เพียงแสดงระดับราคาก่อนหน้าเท่านั้น แต่เป็นการแยกตัวประกอบในราคาสูงสุดและต่ำสุดตลอดช่วงตัวชี้วัดที่เลือกเพื่อการทำนายที่แม่นยำยิ่งขึ้น  

แนวคิดพื้นฐานคืออะไร

Stochastic Oscillator คือสิ่งที่เรียบง่ายมากในการทำความเข้าใจ มี 2 เส้นบนกราฟ – %K (เส้นสีฟ้า) และ %D (เส้นสีแดง) เส้น %K แสดงช่วงเวลา: บน IQ Option 13 คือค่าเริ่มต้น ช่วงเวลาขึ้นอยู่กับกรอบเวลาของแท่งเทียนที่คุณเลือกและสามารถนับเป็นปี เดือน วัน และอื่นๆ เส้น %D คือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายของ %K 

ค่าของตัวชี้วัดนี้อยู่ระหว่าง 0 และ 100 พื้นที่ Overbought เริ่มต้นคือทุกที่ที่สูงกว่า 80 และพื้นที่ Oversold เริ่มต้นคือต่ำกว่า 20

วิธีการอ่านสัญญาณ

พื้นที่ Oversold และ Overbought แสดงเมื่อแนวโน้มอาจเปลี่ยนแปลงทิศทางของมัน

ตามหลักการทั่วไป เราซื้อเมื่อตลาดมีการขายมากเกินไป และเราขายเมื่อตลาดมีการซื้อมากเกินไป

ซื้อ ได้รับสัญญาณซื้อเมื่อออสซิลเลเตอร์ตัดเส้น Oversold (20) จากล่างขึ้นบน Oversold หมายถึงเงื่อนไขที่สินทรัพย์มีการเทรดที่ราคาต่ำกว่าและมีโอกาสในการเด้งของราคา ในกรณีนี้เส้น %K (สีฟ้า) ของตัวชี้วัดต้านข้างบนเส้น %D (สีแดง) 

ขาย เมื่อออสซิลเลเตอร์ตัดเส้น Overbought (80) จากข้างบนลงล่าง นั่นคือเวลาขาย Overbought โดยทั่วไปจะอธิบายการเคลื่อนไหวล่าสุดหรือในระยะสั้นของราคาหลักทรัพย์ และสะท้อนถึงความคาดหวังว่าตลาดจะแก้ไขราคาในไม่ช้า ในสถานการณ์ดังกล่าวเส้น %K (สีฟ้า) ของตัวชี้วัดต้านข้างล่างเส้น %D (สีแดง)

วิธีการตั้งค่าตัวชี้วัด

มี 3 ขั้นตอนในการใช้งาน Stochastic Oscillator บนกราฟ คลิกปุ่มตัวชี้วัด จากนั้นเลือกตัวชี้วัดโมเมนตัมและเลือก Stochastic Oscillator จากรายการ

การตั้งค่าตัวชี้วัด Stochastic ยืดหยุ่นได้ ค่าเริ่มต้นคือ 13 สำหรับช่วงเวลา K, 3 สำหรับช่วงเวลา D และเส้นเรียบ (Smoothing) คือ 3 

นักเทรดอาจแก้ไขการตั้งค่าของช่วงเวลา K ไปที่ 14 เพื่อทำให้สัญญาณชัดเจนมากขึ้น

การนำ Stochastic Oscillator ไปใช้ในกลยุทธ์การเทรดของคุณ

มีเคล็ดลับหลายประการสำหรับการใช้ Stochastic indicator อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น:

ระวังแนวโน้ม มีหลายแนวทางในการใช้ Stochastic Oscillator ได้มีประสิทธิภาพ ในการเริ่มต้น ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าราคาของสินทรัพย์ที่กำลังพิจารณานั้นมีแนวโน้ม นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าตัวชี้วัดอาจให้สัญญาณเท็จเมื่อใช้ในตลาดที่หลากหลาย

ตรวจหาจุดตัด รอ 2 เส้น ให้ตัดอีกเส้นคืออีกหนึ่งวิธีในการใช้ Stochastic oscillator เมื่อราคาสูงขึ้นและเส้นสองเส้นตัดกัน อาจเป็นสัญญาณที่จะขาย (เส้นอยู่เหนือพื้นที่ Overbought) หรือซื้อ (ตัวชี้วัดอยู่ต่ำกว่าพื้นที่ Oversold)

ค้นหาไดเวอร์เจนท์ (Divergence) ไดเวอร์เจนท์ (Divergence) เกิดขึ้นเมื่อตัวชี้วัดไม่เคลื่อนที่ไปตามราคา มองหาส่วนต่างระหว่างกราฟและเส้นตัวชี้วัด หากราคาทำจุดสูงสุดใหม่หรือจุดต่ำสุดใหม่ และ Stochastic Oscillator ไม่ทำแบบเดียวกัน นั่นคือไดเวอร์เจนท์ (Divergence) เมื่อไดเวอร์เจนท์ (Divergence)เกิดขึ้น มักเป็นสัญญาว่าจุดกลับตัวกำลังจะเกิดขึ้น

สรุป

Stochastic Oscillator คือหนึ่งในตัวชี้วัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของตลาด มักถูกใช้เพื่อหาระดับ Overbought และ Oversold อีกทั้งยังสามารถใช้เพื่อหาไดเวอร์เจนท์ (Divergence) ในตลาดได้อีกด้วย

สามารถใช้แยกกันหรือร่วมกันกับตัวชี้วัดอื่นและเครื่องมือกราฟิก หรือใช้เป็นตัวชี้วัดหลายตัวในกลยุทธ์การเทรด Double Stochastic

ขอให้โชคดี!