นักเทรดแต่ละคนต่างก็ใช้กลยุทธ์การติดตามแนวโน้มที่หลากหลายเพื่อหาโอกาสเข้าเทรดและรับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงราคาของสินทรัพย์ การเทรด “ตามเทรนด์” เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้มากมายเช่นกันที่ราคาจะพักตัวชั่วคราว หากต้องการทำกำไรจากโอกาสนี้ นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์การเทรดสวนเทรนด์ได้
กลยุทธ์การเทรดสวนเทรนด์เป็นวิธีการเทรดที่ใช้กรอบเวลาสั้นๆ และกรอบเวลาปานกลาง ซึ่งนักเทรดจะหาช่วงเวลากลับตัวของแนวโน้มชั่วคราวและเปิดดีลเพื่อใช้ประโยชน์จากการพักตัว นักเทรดมักจะซื้อขายระยะสั้นหลายครั้งแบบเน้นกำไรน้อยๆ เพื่อเล็งการกลับตัวของราคา ความสะดวกของแนวทางนี้คือสามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์เทรดตามเทรนด์ได้ หมายความว่านักเทรดสามารถสร้างรายการได้มากขึ้นในสินทรัพย์เดียวกัน
☝️
การเทรดสวนเทรนด์คืออะไร?
การเทรดสวนเทรนด์ (Counter Trend) เป็นวิธีการเทรดที่เกี่ยวข้องกับการเปิดดีลสวนทางแนวโน้มโดยรวม
ดูกราฟ USD/JPY ด้านล่างเพื่อทำความเข้าใจลักษณะการทำงานของวิธีนี้
สินทรัพย์อยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่งในวงกว้างในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การเด้งกลับ Bearish ระยะสั้นก่อตัวขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีโอกาสทำกำไรจากการกลับตัว ดังนั้นจะสามารถเปิดดีลขาลงได้ทุกครั้งที่คาดว่ามีการกลับตัว โดยจะกำหนดระดับหยุดการขาดทุนไว้เพื่อป้องกันสถานะจากการขาดทุนที่สูงกว่าที่คาดการณ์
นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์การเทรดสวนเทรนด์มักจะมีหลายสถานะในเวลาเดียวกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำกำไรให้สูงสุด กลยุทธ์การเทรดสวนเทรนด์คล้ายกับสวิงเทรด (Swing Trading) ซึ่งนักเทรดจะหาความเคลื่อนไหวเล็กๆ ของตลาด และทำเงินมากขึ้นจากกำไรเพียงเล็กน้อย
ข้อดีของกลยุทธ์การเทรดสวนเทรนด์
- โอกาสเข้าเทรดมากขึ้น – นักเทรดมีโอกาสทำประโยชน์จากการกลับตัวของแนวโน้มระยะสั้น
- เทรดอย่างรวดเร็ว – ไม่ต้องรอการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อเข้าสู่ตลาด
- ใช้งานร่วมกับกลยุทธ์เทรดตามเทรนด์ – นักเทรดสามารถเปิดสถานะจำนวนมากเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาของสินทรัพย์ทั้งหมด
- ใช้ได้กับตราสารต่างๆ – สามารถใช้การเทรดสวนเทรนด์กับฟอเร็กซ์ หุ้นหรือคริปโต
ข้อเสียของการเทรดสวนเทรนด์
- ต้องใช้เวลาและใช้ความพยายามมากขึ้นเนื่องจากปริมาณการเทรดที่เพิ่มขึ้น
- ต้องมีการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างละเอียดเพื่อให้สามารถเข้าและออกได้อย่างทันท่วงที
- ค่าคอมมิชชั่นอาจสูงขึ้นหากโบรกเกอร์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเปิดเทรด
วิธีใช้กลยุทธ์การเทรดสวนเทรนด์
การสร้างกลยุทธ์การเทรดสวนเทรนด์มีหลายขั้นตอน
ขั้นแรกเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด หลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง เนื่องจากอาจเพิ่มโอกาสที่ถึงระดับการหยุดขาดทุน
จากนั้นเลือกเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อค้นหาจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสามารถใช้ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) หรือ RSI นอกจากนี้อาจมองหารูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเพื่อยืนยันสัญญาณ
เมื่อสัญญาณเข้าได้รับการยืนยันแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่จำเป็น ควรกำหนดระดับ Take Profit และ Stop Loss เพื่อช่วยจัดการผลลัพธ์
ผู้ที่เทรดสวนทางแนวโน้มต้องพร้อมที่จะออกทันทีหากไม่เกิดการกลับตัวที่คาดการณ์ไว้
ตัวอย่าง
มาดูตัวอย่างที่ใช้ได้จริงของกลยุทธ์เทรดสวนเทรนด์ ตัวอย่างด้านล่างแสดงกราฟราคา 15 นาทีของคู่สกุลเงิน AUD/USD สินทรัพย์อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่กว้างขึ้น โดยแสดงการกลับตัวขาลงหลายครั้ง
การเคลื่อนไหวของราคาเริ่มต้นด้วยแนวโน้มขาขึ้น จากนั้นตัวชี้วัด RSI ได้สดงสัญญาณการกลับตัว การกลับตัวได้รับการยืนยันโดยแท่งเทียนขาลงอันแรก ซึ่งหมายความว่าสามารถเปิดสถานะขาลงได้
จุดหยุดการขาดทุนถูกวางอยู่เหนือจุดสูงสุดของแท่งเทียนขาลงที่สร้างขึ้น RSI ติดตามการกลับตัวจนกว่าจะบ่งชี้ว่ามีโอกาสกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง สัญญาณนี้ได้รับการยืนยันโดยแท่งเทียนสีเขียวแท่งถัดไป ซึ่งเป็นจุดที่นักเทรดต้องออกจากเทรด ลำดับนี้จะเกิดขึ้นซ้ำที่การเด้งกลับครั้งถัดไป โดยมีแนวโน้มขาลงที่นานขึ้น
ใครบ้างที่สามารถใช้กลยุทธ์นี้?
การเทรดสวนเทรนด์ไม่ถือเป็นเทคนิคที่ “ง่าย” ดังนั้นจึงควรฝึกฝนอย่างเต็มที่ วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับนักเทรดที่ชอบกรอบเวลาที่สั้นกว่า
สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามกลยุทธ์การเทรดอย่างใกล้ชิดและใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่จำเป็นเพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด การอดทนต่อความเสี่ยงที่สูงและการควบคุมอารมณ์ที่มีอิทธิพลเป็นลักษณะสำคัญของนักเทรดสวนเทรนด์
