เส้น Fibonacci คือหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่ถูกใช้โดยนักเทรดจากทั่วโลก มันช่วยคาดการณ์ความยาวของแนวโน้มราคาปัจจุบันและการย้อนกลับของราคาที่เป็นไปได้ในอนาคต เครื่องมือนี้เป็นประโยชน์ในการคาดการณ์เวลาที่ดีที่สุดในการเข้าตลาดและเมื่อไรที่จะออกจากตลาด เส้น Fibonacci ใช้ในการระบุหาเส้นแนวรับและแนวต้านที่ทำให้ได้รับกำไรสูงสุดจากดีลที่เปิด

วิธีหาและวิธีนำไปใช้งาน

คุณสามารถพบเส้น Fibonacci ได้ในมุมซ้ายล่างของเมนูเครื่องมือกราฟิกบนแพลตฟอร์ม IQ Option

  • หากต้องการใช้เครื่องมืออย่างถูกต้องสำหรับแนวโน้มขาขึ้น เลือกจุดต่ำสุดและสูงสุดสำหรับแต่ละช่วงเวลา และเชื่อมต่อจุดกับเส้น Fibonacci จาก 100 ถึง 0

ในการทำเช่นนั้น คุณต้องค้นหาราคาต่ำสุดภายในช่วงเวลาที่เลือกและคลิก ราคาต่ำสุดมักถูกไฮไลต์บนกราฟ หลังจากนั้น คุณต้องลากเส้นไปที่ราคาสูงสุดที่ควรอยู่ทางขวาจากราคาต่ำสุด สุดท้าย เส้น Fibonacci จะสะท้อนและคุณจะพร้อมที่จะใช้งาน

  • สำหรับแนวโน้มขาลง คุณต้องทำแบบเดียวกันแต่ไปยังฝั่งตรงกันข้าม

อันดับแรก คุณควรค้นหาราคาสูงสุดและคลิก จากนั้นระบุราคาขั้นต่ำทางด้านขวาจากราคาสูงสุดและเชื่อมต่อสองจุดนี้

เมื่อคุณทำเช่นนั้นแล้ว เส้น Fibonacci ก็พร้อมใช้งาน

ให้ความสนใจกับการวางเส้นตรงกับจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้กราฟแท่งเทียนหรือกราฟแท่ง

วิธีการอ่านเส้น

เครื่องมือนี้ประกอบด้วยเส้นแนวนอนที่ตอบสนองตามอัตราส่วน Fibonacci 23.6, 38.2, 50, 61.8 และ 100 ระดับเหล่านี้ถูกวาดออกมาเพื่อกำหนดระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ของแนวโน้มราคาที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถคาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อราคาถึงระดับหรือไม่

ระหว่างแนวโน้มขาขึ้น Fibonacci Retracement สามารถใช้เป็นสัญญาณซื้อระหว่างการวิ่งย้อนกลับได้ ระหว่างแนวโน้มขาลง Fibonacci lines สามารถใช้เพื่อกำหนดตำแหน่งขายระยะสั้นที่เหมาะสมได้

หากราคาทะลุระดับ:

  • 23.6 หรือ 38.2 – มีโอกาสที่แนวโน้มจะดำเนินต่อไป
  • 50 – แนวโน้มสามารถดำเนินต่อไปหรือจะเปลี่ยนแปลงก็ได้
  • 61.8 – มีโอกาสสูงที่แนวโน้มจะเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างเช่น ที่นี่จะเห็นได้ว่าแนวโน้มเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้นหลังจากทะลุระดับ 61.8

โปรดจำไว้ว่าหากคุณใช้เส้น Fibonacci สำหรับการเทรดระยะยาวคุณยังสามารถใช้ระดับเหล่านี้เพื่อตั้งค่า Stop Loss ได้อีกด้วย หากคุณกำลังวางแผนที่จะเข้าตลาดที่ระดับ 23.6-38.2 ก็เป็นเหตุผลที่ดีที่จะกำหนด Stop Loss ที่ระดับ 0 – สำหรับซื้อดีลหรือระดับ 50 สำหรับขายดีล ดังนั้นคุณสามารถลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

ตัวอย่างสินทรัพย์ Volkswagen

มาดูสินทรัพย์ของ Volkswagen และมาดูกันว่าสามารถคาดการณ์แนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นด้วย Fibonacci Lines ได้อย่างไร เราได้ระบุว่าสินทรัพย์ Volkswagen มีแนวโน้มขาลงและใช้เครื่องมือกราฟิกตามนั้น

สิ่งแรกที่เราเห็น (1) คือราคาผันผวนระหว่างระดับ 23.6 และ 38.2 ดังนั้นเราจึงกำหนด 23.6 ให้เป็นแนวรับหลักและ 38.2 เป็นแนวต้านหลัก

หลังจากทะลุระดับ 38.2 และ 50 เรากำลังรอให้ราคาทดสอบระดับและแสดงว่าแนวโน้มจะไปต่อหรือย้อนกลับ เมื่อราคาถึงระดับ 61.8 (2) มันจะเด้งกลับ และแนวโน้มขาลงจะดำเนินต่อไป

ราคาไปต่อถึงระดับ 61.8 และยังคงเติบโต (3) นั่นหมายความว่าแนวโน้มได้เปลี่ยนไปเป็นขาขึ้น

และในที่สุดเมื่อราคาถึงระดับ 100 (4) ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าแนวต้านที่แข็งแกร่ง แนวโน้มราคาจะเปลี่ยนกลับเป็นขาลง

สอดคล้องตามระดับเหล่านี้ เราสามารถบอกได้ว่าพื้นที่ไหนที่เราจะได้รับสัญญาณเพื่อเข้าหรือออกตลาด แต่กระนั้น สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเส้น Fibonacci แสดงเฉพาะพื้นที่และไม่ใช่สัญญาณ ดังนั้นเพื่อที่จะใช้มันอย่างชาญฉลาดคุณอาจต้องการใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ ตัวอย่างเช่น นักเทรดจำนวนมากรวมเครื่องมือกราฟิกนี้เข้ากับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น ADX และ Parabolic SAR

สรุป

เส้น Fibonacci เป็นเครื่องมือกราฟิกเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับการระบุการกลับตัวของแนวโน้มที่เป็นไปได้ ความแข็งแกร่ง และพื้นที่ที่มีแนวโน้มจะพบสัญญาณมากที่สุด บทบาทหลักของเครื่องมือนั้นคือการแสดงว่าแนวโน้มปัจจุบันเป็นแนวโน้มใหม่หรือเป็นเพียงการพักตัวของแนวโน้มก่อนหน้านี้ และไม่ว่ามันจะย้อนกลับไปที่ระดับเริ่มต้นในไม่ช้าหรือไม่ก็ตาม

การรวมเครื่องมือกราฟิกนี้เข้ากับตัวชี้วัดอื่นๆ อาจช่วยเพิ่มแนวทางการเทรดได้อย่างมากโดย ไม่คำนึงถึงนิสัยการเทรดของคุณ

ทดลองเส้น Fibonacci