การเทรดไบนารีออปชันต้องรู้จังหวะเข้าเทรด เพราะหลายครั้งที่โอกาสการเทรดจบลงภายในกรอบเวลาที่กำหนด นักเทรดต้องตัดสินใจให้ถูกต้องทั้งทิศทางและเวลา!

ผลตอบแทนของไบนารีออปชันค่อนข้างสูง เมื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวเล็กน้อยไปในทิศทางที่นักเทรดต้องการและภายในระยะเวลาสั้นๆ นักเทรดจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 100% ดังนั้นจึงต้องใช้กลยุทธ์ไบนารีออปชันที่เฉพาะเจาะจง และสามารถจับจังหวะตลาดเมื่อเริ่มมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการ

การสร้างกลยุทธ์ก็เหมือนสูตรทำคุกกี้ ส่วนผสมยิ่งดี ผลลัพธ์ก็ยิ่งดี

องค์ประกอบของกลยุทธ์ไบนารีออปชัน

ส่วนผสมที่ 1: Kaufman Adaptive Moving Average (KAMA) 

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่นี้คือหนึ่งในค่าที่ดีที่สุดเพราะใช้การคำนวณเฉพาะเพื่อพลิกแพลงตามราคาตลาด และให้สัญญาณลวงที่น้อยกว่า Simple Moving Averages (SMA) หรือ Exponential Moving Averages (EMA) ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป

ในที่นี้เราจะใช้ด้วยการตั้งค่าเริ่มต้นจากที่พบบนแพลตฟอร์ม IQ Option (ดูรูปภาพด้านล่าง)

ส่วนผสมที่ 2: ATR Trailing Stops

ในฐานะสิ่งที่ดีที่สุด ATR Trailing Stops ไม่เคยทำให้ผิดหวัง นี่อาจเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดสำหรับ Trailing Stop Loss ที่ตรงตามชื่อ นอกจากนั้น ตัวชี้วัดนี้ยังเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่ดีที่สุดที่ให้สัญญาณการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มอย่างตรงจังหวะ

ในกลยุทธ์นี้เราใช้ ATR Trailing Stops ด้วยการตั้งค่าเริ่มต้น ตามที่แสดงในภาพถ่ายหน้าจอด้านล่าง

ส่วนผสมที่ 3: QStick

ในกลยุทธ์นี้เราใช้ QStick เฉพาะในส่วนจุดกลับตัวของแนวโน้มเท่านั้น นั่นเพราะว่าการเทรดจุดกลับตัวของแนวโน้มมีความเสี่ยง และต้องมีจังหวะเข้าเทรดที่ดีกว่าแค่การเทรดตามแนวโน้มที่กำหนดไว้

แม้ว่าจะมีลักษณะคล้ายกับออสซิลเลเตอร์ แต่ก็สามารถใช้ QStick เป็นตัวชี้วัดแนวโน้มได้ การเพิ่มเข้าไปในส่วนประกอบของเราจะเป็นการเพิ่มโอกาสที่สัญญาณสวนแนวโน้มจะเกิดขึ้น  การตั้งค่าที่ใช้กับ QStick คือค่าเริ่มต้นดังแสดงในรูปภาพด้านล่าง

ระยะเวลาและกรอบเวลาแท่งเทียน

กลยุทธ์ไบนารีออปชันนี้ใช้ได้กับทุกกรอบเวลา ในกรณีนี้เราจะแสดงการตั้งค่าสำหรับเทอร์โบออปชัน ซึ่งเป็นประเภทที่เร็วที่สุด เราจะมาดูกันที่เทอร์โบออปชัน 60 วินาที หรือ 1 นาที

กรอบเวลาแท่งเทียนคือประมาณ ¼ ของเวลาหมดอายุของออปชัน ทำให้เรามีระยะเวลาแท่งเทียนเท่ากับ 15 วินาที

เราจะใช้ตัวชี้วัด KAMA และ ATR Trailing Stops เท่านั้นสำหรับการซื้อและการขายตามแนวโน้ม ในจุดกลับตัวของแนวโน้ม เราจะเพิ่ม QStick ในกลยุทธ์เช่นกัน

การตั้งค่ากลยุทธ์

กลยุทธ์แนวโน้ม

การซื้อ (“สูงกว่า”)

1. การซื้อที่จุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นใหม่จะทำได้เมื่อทั้งราคาและตัวชี้วัด ATR Trailing Stops อยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ KAMA เท่านั้น

2. จากนั้นเราต้องรอให้แท่งเทียนขาขึ้นอันแรกปิดเหนือตัวชี้วัด ATR Trailing Stops

3. เราสามารถซื้อหรือเข้าเทรดสถานะ Long ได้ทันทีเมื่อแท่งเทียนต่อไปเปิดออก

สูงกว่า

การขาย (“ต่ำกว่า”)

1. การขายที่จุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงใหม่จะทำได้ต่อเมื่อทั้งราคาและตัวชี้วัด ATR Trailing Stops อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ KAMA เท่านั้น

2. จากนั้นเราต้องรอให้แท่งเทียนขาลงอันแรกปิดต่ำกว่าตัวชี้วัด ATR Trailing Stops

3. เราสามารถขายหรือเข้าเทรดสถานะ Short ได้ทันทีเมื่อแท่งเทียนต่อไปเปิดออก

ต่ำกว่า

การเทรดจุดกลับตัวของแนวโน้ม

หากต้องการเทรดจุดกลับตัวของแนวโน้ม เราต้องใช้ตัวชี้วัดอีกตัวที่ชื่อว่า QStick QStick จะกรองสัญญาณที่ไม่ดีออกไป และปรับปรุงความสม่ำเสมอและความสำเร็จของสัญญาณ

การซื้อ (“สูงกว่า”)

การซื้อตามการปรับฐานขาขึ้น/การกลับตัวขาขึ้นในแนวโน้มขาลงต้องทำ 3 ขั้นตอน

1. อย่างแรกแนวโน้มขาลงต้องมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยมีราคาอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ KAMA

2. จากนั้นเราต้องเห็นการปรับฐานและราคาเข้าใกล้เหนือระดับ ATR Trailing Stops

3. สิ่งสุดท้ายที่เราต้องตรวจสอบคือ QStick หากเป็นสีเขียว เราสามารถเปิดเทรดสถานะ Long หรือซื้อสินทรัพย์เมื่อแท่งเทียนถัดไปเปิดออก

สูงกว่า

การขาย (“ต่ำกว่า”)

การขายตามการปรับฐานขาลง/การกลับตัวขาลงในแนวโน้มขาขึ้นต้องทำ 3 ขั้นตอน

1. อย่างแรกแนวโน้มขาขึ้นต้องมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยมีราคาอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ KAMA

2. จากนั้นเราต้องเห็นการปรับฐานและราคาเข้าใกล้ต่ำกว่าระดับ ATR Trailing Stops

3. สิ่งสุดท้ายที่เราต้องตรวจสอบคือ QStick หากเป็นสีแดง เราสามารถเปิดเทรดสถานะ Short หรือขายสินทรัพย์เมื่อแท่งเทียนถัดไปเปิดออก

ต่ำกว่า

การตั้งค่ากราฟ – เคล็ดลับปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด

สิ่งสำคัญคือนักเทรดต้องสร้างกราฟให้สามารถสังเกตตลาดได้มากที่สุดในเวลาเดียวกัน เพื่อไม่ให้ไม่พลาดโอกาสทำเงิน

การเริ่มต้นด้วยกราฟ 4 อันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น หลักจากเชี่ยวชาญขึ้นนักเทรดสามารถใช้กราฟได้มากถึง 9 อันในการตั้งค่าแบบ 3 ต่อ 3 นอกจากนี้ การบันทึกตัวชี้วัดการเทรดเป็นเทมเพลตก็มีความสำคัญเช่นกัน เพื่อโหลดกลยุทธ์ในกราฟต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องกรองตัวเลือกผลตอบแทนจากสูงสุดไปต่ำสุดเสมอ นักเทรดจะได้มุ่งเน้นดีลที่ดีที่สุดได้อย่างรวดเร็ว รางวัลยิ่งสูง กำไรยิ่งมาก บางครั้งผลตอบแทนอาจสูงถึง 99% หรือแม้แต่ 100% ทำให้ความเสี่ยงดูน่าสนใจสำหรับนักเทรด

สรุป

กลยุทธ์ไบนารีออปชั่นจะช่วยให้สามารถตัดสินใจเทรดตามแนวโน้มที่จุดเริ่มต้นและการกลับตัวที่จุดสิ้นสุดได้ เวลา วินัย และการลงมือทำที่เหมาะสมคือสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของกลยุทธ์นี้

จำไว้ว่าไม่มีกลยุทธ์ใดที่สามารถช่วยเหลือนักเทรดได้ 100% ไม่ว่าจะกลยุทธ์ไหนก็ตาม ในขณะเดียวกันตลาดก็ไม่ได้มีโอกาสที่ดีเสมอไป ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักเทรดต้องไม่มุ่งเน้นแค่ตลาดเดียว หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาที่ปริมาณการเทรดต่ำมากและกรณีที่ตลาดไซด์เวย์ (Sideway) หรือตลาดแกว่งขึ้นลงอยู่ในกรอบราคาแคบๆ (Choppy) 

เทรดตอนนี้